วิเคราะห์บอล [ คัดบอลโลก 2026 ] โซนเอเชีย
อินโดนีเซีย VS ญี่ปุ่น
ฟุตบอลคัดบอลโลก 2026 วันศุกร์ที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา 19.00 น. คู่ อินโดนีเซีย VS ญี่ปุ่น
“ซามูไร” ไม่ปราณี “อินโด” มีสะดุด
ผลการพบกันของทั้งสองทีม
24/01/24 ญี่ปุ่น ชนะ อินโดนีเซีย 3-1 / (กลาง) เอเชี่ยน คัพ 2023
ฟอร์ม 5 นัดหลังในรายการนี้ ของอินโดนีเซีย
15/10/24 แพ้ จีน 1-2 (เยือน)
10/10/24 เสมอ บาห์เรน 2-2 (เยือน)
10/09/24 เสมอ ออสเตรเลีย 0-0 (เหย้า)
06/09/24 เสมอ ซาอุดิอาระเบีย 1-1 (เยือน)
11/06/24 ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 (เหย้า)
ฟอร์ม 5 นัดหลังของอินโดนีเซีย
15/10/24 แพ้ จีน 1-2 (เยือน) คัดบอลโลก 2026
10/10/24 เสมอ บาห์เรน 2-2 (เยือน) คัดบอลโลก 2026
10/09/24 เสมอ ออสเตรเลีย 0-0 (เหย้า) คัดบอลโลก 2026
06/09/24 เสมอ ซาอุดิอาระเบีย 1-1 (เยือน) คัดบอลโลก 2026
11/06/24 ชนะ ฟิลิปปินส์ 2-0 (เหย้า) คัดบอลโลก 2026
สภาพทีมล่าสุดของ
อินโดนีเซีย : ภายใต้การคุมทีมของ ชิน แท ยอง สำหรับทัพครั้งนี้จะขาด มีส์ ฮิลเกอร์ส (2 นัด) จากทเวนเต้ และ อัสนาวี่ มังกัวลัม (46 นัด/2 ประตู) แบ็คขวาจากการท่าเรือ ที่มีอาการบาดเจ็บ รวมถึง อัลคาน แบ็กก็อตต์ (24 นัด/2 ประตู) กองหลังจากแบล็คพูลซึ่งไม่ได้ถูกเรียกตัว อย่างไรก็ตาม นักเตะตัวหลักคนอื่นๆ ฟิตพร้อมลุย ไม่ว่าจะเป็น แร็กน่าร์ โอรัตมานโกเอน (8 นัด/2 ประตู) แนวรุกจากด็องแดร์, ราฟาเอล สตรูอิค (19 นัด/1 ประตู) ปีกจากบริสเบน รอร์, มาร์เซลิโน่ เฟอร์ดินาน (30 นัด/3 ประตู) กองกลางจากอ็อกซ์ฟอร์ด ยูไนเต็ด และ จัสติน ฮุบเนอร์ (13 นัด) กองหลังจากวูล์ฟส์
ฟอร์ม 5 นัดหลังในรายการนี้ ของญี่ปุ่น
15/10/24 เสมอ ออสเตรเลีย 1-1 (เหย้า)
11/10/24 ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 2-0 (เยือน)
10/09/24 ชนะ บาห์เรน 5-0 (เยือน)
05/09/24 ชนะ จีน 7-0 (เหย้า)
11/06/24 ชนะ ซีเรีย 5-0 (เหย้า)
ฟอร์ม 5 นัดหลังของญี่ปุ่น
15/10/24 เสมอ ออสเตรเลีย 1-1 (เหย้า) คัดบอลโลก 2026
11/10/24 ชนะ ซาอุดิอาระเบีย 2-0 (เยือน) คัดบอลโลก
10/09/24 ชนะ บาห์เรน 5-0 (เยือน) คัดบอลโลก
05/09/24 ชนะ จีน 7-0 (เหย้า) คัดบอลโลก
11/06/24 ชนะ ซีเรีย 5-0 (เหย้า) คัดบอลโลก
สภาพทีมล่าสุดของ
ญี่ปุ่น : ภายใต้การคุมทีมของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ ประกาศรายชื่อผู้เล่นชุดนี้โดยไม่มีใครบาดเจ็บเพิ่มเติม มีเพียง โชโงะ ทานิงูชิ (32 นัด/1 ประตู) แนวรับจากแซงต์-ตรุยด็องส์ ที่ยังไม่พร้อม ส่วนตัวหลักคนอื่นๆ ฟิตสมบูรณ์เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็น เคียวโงะ ฟูรูฮาชิ (21 นัด/5 ประตู) และ ไดเซน มาเอดะ (20 นัด/4 ประตู) จากเซลติก, โคกิ โองาวะ (7 นัด/7 ประตู) ดาวยิงฟอร์มแรงของเอ็นอีซี ไนย์เมเก้น, ไดจิ คามาดะ (36 นัด/8 ประตู) กลางรุกจากคริสตัล พาเลซ, คาโอรุ มิโตมะ (24 นัด/8 ประตู) ปีกจอมพลิ้วของไบรท์ตัน, ทาคูมิ มินามิโนะ (63 นัด/23 ประตู) เพลย์เมคเกอร์จากโมนาโก และ วาตารุ เอ็นโด (65 นัด/4 ประตู) มิดฟิลด์จากลิเวอร์พูล
อินโดนีเซีย แม้จะมีผู้เล่นฝีเท้าดีหลายคนในลีกยุโรป แต่ผลงานใน 4 เกมหลังยังไม่ดีนัก โดยยังไม่ชนะใครเลย ล่าสุดเพิ่งบุกไปพ่ายจีน 1-2 ส่วนฝั่งญี่ปุ่น ขุมกำลังยุคนี้เต็มไปด้วยนักเตะคุณภาพจากลีกชั้นนำในยุโรปจนต้องแข่งขันกันแย่งตัวจริง ผลงานใน 4 เกมหลังยอดเยี่ยม ชนะถึง 3 นัดและยังไม่แพ้ใคร (เสมอ 1) แม้เกมล่าสุดจะเสมอออสเตรเลีย 1-1 แต่ก็ยังถือว่าทำผลงานได้ดีและคงความมั่นใจไว้ได้สูง เมื่อพิจารณาจากภาพรวมแล้ว ญี่ปุ่นมีความเหนือกว่าอย่างชัดเจน แนะนำวางใจอยู่ฝั่ง “ซามูไร”
แหล่งอ้างอิง : https://ufanews.com/
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติม : ดูราคาต่อรอง ได้ที่ @sport
อ่านข่าวเพิ่มเติม : วิเคราะห์ฟุตบอล